9 เหตุผล ที่มักใช้เป็นข้ออ้างในการทิ้งกระต่าย

jp24859

การที่คุณจะเลี้ยงกระต่าย หรือ สัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ สักตัว เป็นเรื่องที่ต้องคิดยาวๆ เพราะคุณต้องเลี้ยงเขาไปตลอดชีวิต เข้าใจว่าหลายคนมีเหตุผล แต่อยากให้คุณลองนึกคิดถึงอนาคต สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น จะอีก 2 ปี 5 ปี ไปจนถึง อีก 10 ปี ข้างหน้า เมื่อวันนั้นมาถึง หากคุณไม่ได้คิดเตรียมตัวไว้ก่อนเลย ว่าจะทำอย่างไร กับ “กระต่าย” ของคุณ สุดท้ายความเจ็บปวดก็ตกมาอยู่ที่เขา “กระต่ายตัวน้อย” เพราะเขาก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ฉะนั้นคิดให้รอบคอบก่อนที่คุณจะมีความคิดที่จะเลี้ยงกระต่ายเป็นดีที่สุด ไม่ใช่พอเบื่อแล้ว คุณจะนำเขาไปปล่อยทิ้งไว้หน้าบ้านคนอื่น นำเขาไปทิ้งไว้ที่กองขยะ ซึ่งอาจจะเป็นของตัวคุณเอง แล้วไปบอกคนอื่นว่าเจอกระต่ายถูกคนใจร้ายทิ้งมา หรือ ยกให้ใครก็ได้เลี้ยง มันยังพอมีวิธีอื่นอีกไหมที่ไม่ทำให้เขาเจ็บปวดใจแบบนี้

มาดูกันดีกว่า ว่าเหตุผลที่คุณอาจนึกถึง หรือ ได้เจอกับคนใกล้ตัว จะตรงกับ 9 เหตุผล เหล่านี้บ้างหรือเปล่า


1. ไม่มีเวลา.. (ให้กับเธออีกต่อไปแล้ว)

เมื่อเขามาอยู่กับเราได้ช่วงระยะเวลานึง จนกระทั่งเขาได้เรียนรู้ ปรับตัว ไว้ใจ ได้ให้ความรัก ความสุข และเสียงหัวเราะแก่คุณ เห็นคุณเป็นคนในครอบครัวของเขา เป็นพ่อ เป็นแม่ หรือ เพื่อนสนิท มากกว่าที่เขาจะคิดว่าคุณเป็นยักษ์ตัวใหญ่หรือนักล่าที่น่ากลัว ที่เขาต้องคอยหลบซ่อนอย่างระมัดระวัง แต่มันน่าเศร้า ที่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง(สำหรับบางคน) สิ่งที่เจ้ากระต่ายตัวน้อยได้มอบให้คุณตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กับถูกตอบแทนด้วยคำว่า ฉันไม่มีเวลา.. ให้กับเธออีกต่อไปแล้ว


2. ไม่เป็นดังใจหวัง.. (ฉันผิดหวังในตัวเธอ)

ทำไมกระต่ายที่ฉันซื้อมา พอโตขึ้นหน้าตาไม่ดี หรือ ไม่น่ารัก เหมือนที่ฉันหวังไว้นะ? คุณอาจต้องการกระต่ายที่เหมาะกับคุณ ตรงใจคุณ เหมือนอย่างที่คุณได้หวังไว้ หากคุณไม่ได้นึกถึงจิตใจข้างในของเขา(กระต่าย) สนใจแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก คุณจะเลิกเลี้ยง ไปหาตัวใหม่ที่ดีกว่า และทิ้งเขาด้วยเหตุผลนี้จริงๆเหรอ?


3. เธอเดินไม่ได้.. (มันเป็นโชคร้ายของเธอ ไม่ใช่ฉัน)

อนาคตข้างหน้า เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ จากวันนึงที่เขาเคยเดินได้ กลับเดินไม่ได้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเกิดจากโรค อุบัติเหตุ หรือ สาเหตุอื่นๆ คุณอาจเกิดคำถาม(สำหรับบางคน) “ฉันจะดูแลเธอต่อไปได้ยังไงนะ ถ้าเธอพิการแบบนี้ ฉันคงดูแลเธอต่อไปไม่ได้ เอาไปทิ้ง ไปปล่อย หรือ ยกให้ที่ไหนสักแห่งคงจะดีเสียกว่า ดีกว่าที่ฉันต้องมารับภาระนี้เอง” ความคิดแบบนี้ จะไม่ดูใจร้ายเกินไปหน่อยเหรอสำหรับโชคร้ายที่เขา(กระต่าย)ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด


4. เงินมีไม่พอสำหรับดูแลเธอ.. (เพราะสิ่งอื่นมันสำคัญกว่า)

ไม่ใช่แค่กระต่าย สัตว์เลี้ยงอื่นๆ ก็เช่นกัน ถ้าคุณคิดจะเลี้ยงสัตว์ แน่นอนมันก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ไม่ต่างอะไรกับคุณ เจ็บป่วยต้องรักษา หรือ แก่ตัวไปมีแต่โรค ไม่อยากรักษาอาจด้วยค่ารักษาที่สูงเลยเอาไปปล่อย เอาไปทิ้ง ไม่อยากรับเป็นภาระ แบบนี้คิดง่ายเกินไปไหมนะ คุณลองใช้วิธีนี้ดูสิ “กระปุกวิเศษ” มันอาจจะช่วยคุณได้ ถ้าคุณเริ่มทำมันตั้งแต่วันนี้ แต่หากเก็บไม่ทันจริงๆ คุณลองปรึกษากับทางโรงพยาบาลสัตว์ หรือ คลินิกที่คุณพาเจ้าตัวเล็กไปรักษาดูว่าพอจะมีทางไหม ที่จะขอแบ่งจ่าย ผ่อนชำระ เชื่อว่าทางโรงพยาบาลสัตว์ หรือ คลินิก ไม่ใจร้ายแน่นอน

“ค่ารักษาแพงจัง หนูขอแบ่งจ่ายได้ไหม ขอให้หมอเต็มที่ หนูยินดีที่จะหามา
ถึงจะมีผ่อนหลายอย่าง แต่ฉันก็จะช่วยเธอ รอฉันก่อนนะเจ้ากระต่ายตัวน้อย”


5. เธอน่ากอดเหมือนตุ๊กตา.. (แต่ถ้าฉันเบื่อขึ้นมา ฉันก็ทิ้งเธอ)

บางคนคิดว่ากระต่ายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากอด น่าอุ้ม น่าขยำ ประมาณว่าเขาคือตุ๊กตา เหมือนของเล่น จะเล่นสนุกยังไงกับเขาก็ได้ ถ้าเกิดอุ้มไม่ได้ขึ้นมา เขาอาจดิ้นขัดขืน ทำให้คุณบาดเจ็บ หรือกัดคุณ คุณอาจจะคิด “ทำไมคนอื่นยังอุ้มกระต่ายกันได้เลย ฉันอุ้มแค่นี้ต้องกัดกันด้วยเหรอ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันไม่น่าพาเธอมาเลย ไปหาตัวอื่นที่มันเชื่องๆกว่านี้มาเลี้ยงดีกว่า ..น่าเบื่อชะมัด”

จริงๆแล้วกระต่ายไม่ชอบให้เท้าของเขาลอยจากพื้น เพราะมันไม่ปลอดภัยสำหรับเขา แต่ถ้าคุณให้เวลากับเขา อุ้มเขาอย่างถูกวิธี นุ่มนวล เขาไม่เจ็บตัว คุณไม่เจ็บตัว แบบนี้เขาอาจทำใจได้ และยอมอยู่นิ่งๆให้คุณอุ้มแต่โดยดี


6. โรคร้ายกำเริบ.. (ในวันที่ฉันไม่ต้องการเธอ)

คุณอาจมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ภูมิต้านทานไม่ดี เจ็บป่วยบ่อย แต่รักที่จะดูแลกระต่าย(รวมถึงสัตว์เลี้ยงอื่นๆ) อาจเพราะคุณปรับตัวให้สามารถอยู่กับโรคและเขาได้ไปพร้อมๆกัน แต่สำหรับบางคน โรคร้ายมักกำเริบและแสดงอาการหลังจากเลี้ยงกระต่าย แรกๆไม่เคยเป็น ทั้งที่เป็นคนรักษาสุขภาพ ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี มีสุขภาพแข็งแรงปกติดีอยู่แล้ว แต่บังเอิญมาเป็นเมื่อถึงเวลาที่คุณไม่ต้องการเขา พอเขาพ้นตัวคุณ โรคกลับหายหน้าตาเฉย แบบนี้ก็ได้เหรอ?


7. เป็นเพราะเธอพลาด.. (ฉันจึงไม่ไหวที่จะดูแลพวกเธอ)

หากคุณตั้งใจแสดงว่าคุณวางแผนไว้ล่วงหน้า และคุณพร้อมที่จะดูแลพวกเขาอย่างเต็มที่ แต่ถ้าคุณไม่ศึกษาวิธีการเลี้ยงกระต่ายมาก่อนเลย คุณพลาดที่ปล่อยให้เขา(กระต่ายตัวผู้ และ กระต่ายตัวเมีย) อยู่ด้วยกันตามลำพัง ปัญหาเลยตามมา แรกๆคุณอาจตื่นเต้นเวลาที่ได้เห็นลูกกระต่ายตัวน้อย แต่ผ่านไปไม่กี่วันเมื่อคุณมานั่งคิดทบทวน ว่าคุณรับผิดชอบไม่ไหว คุณก็นำกระต่ายไปปล่อย หรือ ใส่กล่องวางไว้ที่ไหนสักแห่ง เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็มีคนมาเจอ และนำไปเลี้ยงต่อเองแหล่ะ

หากคุณวางแผนล่วงหน้า ปัญหาก็ไม่เกิด คุณอาจแยกเลี้ยง หรือ พาเขาไปทำหมัน เมื่อร่างกายเขาพร้อม เพื่อป้องกันการตั้งท้อง หรือ อาจจะด้วยเหตุผลอื่น อย่างเช่น ลดความก้าวร้าว การเป็นเจ้าถิ่น เพื่อให้พวกเขาอยู่ด้วยกันได้โดยไม่เกิดความเครียด ถ้าคุณศึกษาตั้งแต่ทีแรก กระต่ายก็จะไม่ถูกทิ้ง


8. บ้านใหม่ของฉัน.. (ไม่มีที่สำหรับเธอ อีกต่อไปแล้ว)

ในวันข้างหน้าคุณอาจมีความจำเป็นที่จะต้องย้ายที่อยู่ใหม่ แต่ก่อนที่คุณจะย้าย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หอพัก คุณได้คิดวางแผน หรือ หาข้อมูลล่วงหน้าไว้แล้วหรือยัง ถ้าคอนโดที่ใหม่ อยู่ใกล้ที่ทำงานใหม่ของคุณ คุณสะดวกในการเดินทาง แต่อย่าลืมว่าหากคุณมีสัตว์เลี้ยง มันอาจเป็นปัญหาถ้าคอนโดที่คุณเลือกจะย้ายเข้าไปอยู่ ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นคุณจะทำอย่างไร มีทางอื่นอีกไหมนอกจากนำเขาไปปล่อย หรือ ทิ้งที่ใดสักแห่ง


9. เธอคือของสำคัญจากคนรักเก่า.. (ที่ฉันไม่อยากจดจำ)

“ฉันเป็นตัวแทนแห่งความรัก ระหว่างพวกเขา ฉันคือ คำสัญญา พวกเขาดูแลฉัน ด้วยความรักตามคำสัญญาที่พวกเขามีต่อกัน ฉันเริ่มจะมีความรัก กับพวกเขา แต่แล้ว ระหว่างทางความรักของพวกเขา เริ่มจืดจาง ห่างหาย เฉยชา ไม่ราบรื่นเหมือนแต่ก่อน จากพวกเขา เหลือเพียงแค่ เขาคนนั้น ฉันถูกทำร้ายในบางเวลา หัวใจของฉันเริ่มบอบช้ำ ไม่ต่างจากเขา การดูแลของเขาที่ให้กับฉัน ก็เปลี่ยนไป ที่เคยรู้สึกอบอุ่น กลับรู้สึกโหยหา ฉันเริ่มเป็นแค่ สิ่งมีชีวิต ที่มีลมหายใจ แต่กลับไร้ตัวตน สุดท้าย.. ฉันก็ไม่เหลือใคร ไม่สิ สิ่งที่ฉันเหลือไว้ ก็แค่ ..ค ว า ม รั ก.. ที่ให้พวกเขาทั้งชีวิต” – ปี JP Rabbitry


สุดท้ายนี้…
มันยังคงมีเหตุผลอีกมากมาย ที่จะเลือกใช้สำหรับทิ้งสัตว์เลี้ยง แต่ถึงอย่างไร…

“ถึงจะลำบาก หรือ มีภาระมากมายขนาดไหน ในเมื่อเธออยู่กับฉัน เธอจะไม่มีวันอด หากเธอเจ็บป่วย ฉันจะพาเธอไปรักษา ฉันไม่มีทางที่จะพาเธอไปปล่อย มันเป็นเพราะความผูกพัน เธอเป็นเหมือนเพื่อน เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของฉัน ถึงเธอจะพูดภาษาฉันไม่ได้ แต่ฉันก็พยายามที่จะสื่อสารโดยใช้ภาษาของเธอ(ที่ฉันได้เรียนรู้จากเธอ) สื่อสารผ่านการแสดงออก สื่อสารผ่านการสัมผัส สื่อสารผ่านสายตา ฉันเรียนแบบเธอได้ทุกอย่างเลย และในบางครั้งฉันอาจหงุดหงิดบ้าง เพราะโลกข้างนอกมันไม่สนุกเอาเสียเลย แต่พอกลับมาเจอเธอ อารมณ์แบบนั้นของฉันก็หายเป็นปลิดทิ้ง เธอไม่ต้องเป็นกังวล ฉันจะอยู่จนกว่าเธอหรือฉัน ตายจากกันไปข้างเลยหล่ะ”


เขียนโดย : Admin J
ภาพประกอบ : ปี JP Rabbitry

    ภาพ บทความ หรือผลงานใดๆ ในบลอคนี้ ใช้สัญญาอนุญาต Creative Commons แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย แปลว่าคุณสามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ต้องให้เครดิตกันด้วยนะจ๊ะ